7 การทดลองด้านสเปกตรัม
สเปกตรัมจากอะตอมของแก๊ส
เมื่อเราใช้เกรตติ้งส่องดูแก๊สร้อนในหลอดบรรจุแก๊สชนิดต่างๆ
เราจะพบเห็นว่าสเปกตรัมของแก๊สร้อนชนิดต่างๆ มีลักษณะเป็นเส้นๆ
ไม่ต่อเนื่องกันแต่เส้นสว่างจะมีความยาวคลื่นเรียงกันเป็นกลุ่มอย่างมีระเบียบ เรียกว่า อนุกรม
( Series )
ดังรูป
ความยาวคลื่นของสเปกตรัมของแก๊สไฮโดรเจนร้อนมี 5
อนุกรม
โดยมีชื่อเรียกตามนักวิทยาศาสตร์ที่ค้นพบเสปกตรัมแต่ละเส้นในอนุกรมนั้น และสามารถคำนวณหาค่าความยาว
คลื่นของสเปกตรัมแต่ละเส้นในอนุกรมต่างๆ ได้โดยใช้สมการ
เมื่อ
l คือความยาวคลื่นของสเปกตรัม
(m)
RH คือค่านิจของริดเบอร์ก =
1.09737 x 107 m-1
nf คือตัวเลขจำนวนเต็มที่เท่ากับ 2
ni คือตัวเลขจำนวนเต็มเริ่มตั้งแต่ 3, 4, 5…..
ตารางที่ 19.1
แสดงอนุกรมของสเปกตรัมชุดต่างๆ
ของไฮโดรเจน
ชื่ออนุกรม
|
ปีที่ค้นพบ
|
|
ช่วงของรังสี
|
ไลมาน (Lyman)
|
1906-1914
|
12
|
อัลตราไวโอเลต ( UV )
|
บัลเมอร์ (Balmer)
|
1885
|
2 2
|
แสงที่ตามองเห็นถึง
UV
|
พาสเชน (Paschen)
|
1908
|
3 2
|
|
แบรกเกต (Bracket)
|
1922
|
4 2
|
อินฟราเรด
( IR )
|
ฟุนด์ (Pfund)
|
1924
|
5 2
|
|
จากสมการของบาลเมอร์ เมื่อเราแทนค่า nf =
2
ni =
3 จะได้ l
= 6,562.8 0A เป็นความยาวคลื่นของแสงสีแดง
ni =
4 จะได้ l
= 4,861.3 0A เป็นความยาวคลื่นของแสงสีน้ำเงิน
ni = 5 จะได้ l
= 4,340.5 0A เป็นความยาวคลื่นของแสงสีม่วง
ni =
6 จะได้ l
= 4,101.7 0A เป็นความยาวคลื่นของแสงสีเหนือม่วง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น